iPhone Best Price

19 พฤษภาคม 2555

บทความเกี่ยวกับ ไอซ์ ปรีชญา

Share it Please

 


“ไอซ์ ปรีชญา” น่ารัก...เออเร่อ



“นังงูพิษ” กลายเป็นฉายาสุดแสบของ “จิ๊บ” หัวหน้าแผนกเอทีเอ็มคนสวยที่รับบทโดย “ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ”นางเอกสุดฮา น่ารัก เบอร์ใหม่ล่าสุดจากค่ายจีทีเอช และเธอคนนี้อาจจะกำลังกลายเป็น “นางเอกร้อยล้าน” จากภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ATM...เออรัก เออเร่อ จาก ฉายา “นังงูพิษ” ที่เธอได้รับกลับตรงข้ามกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ ไอซ์คือสาวหมวย หน้าใส นอกจากนี้ยังขี้อายแล้วยังพูดไม่เก่ง เล่นตลกก็ไม่เป็น แต่เชื่อได้เลยว่า เมื่อไรที่คุณได้เห็น คุณจะตกหลุมรักเธอจนเออเร่อ...


 




       
       นางเอกหนังเรื่องแรก
       
       หลาย คนอาจจะเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากับนางเอกหน้าใหม่คนนี้ แต่อาจจะนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอจากที่ไหน ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร เริ่มต้นการเข้าสู่วงการบันเทิงจากงานถ่ายโฆษณา ทั้งงานโฆษณาชุด เซเว่นฯ เคเอฟซี ชุด ทาร์ตไข่ วีต้า พรุน คิวเพรส และอีกหลากหลายสินค้า เวลาเพียงแค่สามเดือนที่เธอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ก็ทำให้เธอได้มีโอกาสแคสติ้งและได้รับโอกาสให้เป็นนางเอกหน้าใหม่ของจีทีเอช ที่ไอซ์ได้มีโอกาสเข้ามารับบทเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่อง ATM...เออรักเออเร่อ นั้นเกิดจากการที่ผู้กำกับเรียกให้เธอลองเข้าไปแคสติ้งกับบทบาทหัวหน้าแผนก เอทีเอ็ม บุคลิกนิ่ง ขรึม และโตกว่าอายุจริงอย่างมาก 


       
       “เข้า วงการบันเทิงตั้งแต่เล่นโฆษณามาก็แป๊บเดียวเองค่ะ ประมาณสามเดือน เล่นโฆษณาแล้วก็ได้หนังเรื่องนี้เลยค่ะ ยากมั้ยกับการทำงานก็ยากเพราะว่ามันไม่ได้เป็นอะไรที่ง่ายเลยค่ะ เพราะงานในวงการบันเทิงมันต้องใช้การกล้าแสดงออกด้วยใช้ความสามารถ ประสบการณ์แล้วไอซ์ก็ยังใหม่อยู่ด้วยค่ะ”
       
       การ เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เธอบอกว่าไม่ได้เป็นความชอบ หรือตั้งใจที่จะเข้า แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมและว่างมากๆ อยากจะหาอะไรทำ เพื่อนๆ ที่เคยทำอยู่ในวงการบันเทิงอยู่แล้วจึงชักชวนให้ไอซ์ลองไปแคสต์งานดู จนวันนึงเธอก็ได้รับงานโฆษณาชิ้นแรก คืองานชุด เคเอฟซี ทาร์ตไข่

       
       “ไม่ ใช่ความชอบเลยค่ะ จริงๆ ไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะมาเป็นดาราและก็มาอยู่ในวงการบันเทิง แต่ว่าตอนที่มาแคสงานโฆษณาเพราะช่วงนั้นปิดเทอม เพื่อนๆ ก็ชวนให้เราไปแคสต์งานดู เล่นๆ ค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาได้งานในวงการบันเทิง ก็ตกลงกับเพื่อนว่างก็หาโอกาสไปทำงาน แล้วบังเอิญได้ขึ้นมา งานชิ้นแรกก็คือ เคเอฟซี ทาร์ตไข่เลยค่ะ เสื้อสีส้ม งานแรกตื่นเต้นค่ะ เพราะเราก็ไม่เคยมาสัมผัสกับกองถ่ายโฆษณาเลยแบบนี้ ก็จะมีทีมงานเยอะแยะไปหมด ก็ไม่รู้ ปรับตัวไม่นานนะค่ะ”
       
       เมื่อเธอได้มารับบทเป็นนางเอกในเรื่อง ATM…เออ รักเออเร่อ หน้าที่นางเอกหน้าใหม่ ใสกิ๊ก อย่างไอซ์ ก็ต้องมีการเตรียมตัวก่อนเข้าฉากแรก และยิ่งยากไปใหญ่สำหรับหน้าใหม่ที่ต้องมารับมือกับพระเอกร้อยล้านกับบรรดา นักแสดงที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลา จึงทำให้สาวไอซ์ต้องเข้าเวิร์กชอป เรียนรู้การเล่นภาพยนตร์ การเล่นมุกให้ขำ และรู้จังหวะปล่อยความฮาออกมา 



       
       ไอซ์ เล่าถึงประสบการณ์ก่อนจะเข้าฉากในภาพยนตร์จริงๆว่า ตอนแรกก่อนจะเข้ามาเล่นจะมีเวิร์กชอปก่อน เพราะเราไม่รู้ ไม่มีประสบการณ์กับการเล่นคอมเมดี้มาก่อน ซึ่งตัวเองเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยฮาเท่าไหร่ ก็เลยยากที่จะทำให้คนอื่นรู้ว่าเราตลกได้นะ เราก็ต้องเรียนคอมเมดี้มาก่อน ถึงจะพอไปแข่งกับเค้าได้ ไม่งั้นจะสู้ใครไม่ได้เลย รับมุกแรกๆ จะไม่ค่อยเก็ตมุขเท่าไหร่จะช้านิดนึง แต่ช่วงหลังๆ เริ่มรู้มุกมากขึ้น รับมุกทันก็เข้าใจเร็วขึ้นค่ะ เริ่มกวนกลับบ้าง พอได้บ้างค่ะ
       
       “ประสบการณ์ ในกองก็จะเป็นกองที่เฮฮามาก นักแสดงแต่ละคนจะปล่อยมุกขำกันตลอดตอนแรกที่ไอซ์มา ก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร เพราะเราเป็นเด็กขี้อายมาก เป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง มีมุมเงียบๆ ของตัวเอง แต่พอนานๆ ไปก็มีคุยกันมากขึ้น เริ่มสนิทกันมากขึ้น หนังเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ก็ไม่ได้เชิงโรแมนติกมาก จะมีตลกซะมากกว่า มีกวนๆ ขำๆ หลากหลาย”

    
   
       ยิ่งโต ยิ่งอาย
       
       การ เข้ามาในวงการบันเทิงกลายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับไอซ์และครอบครัว เพราะการได้ทำงานและเรียนไปด้วยซึ่งตอนนี้ไอซ์กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยิ่งทำให้เธอมีความรับผิดชอบในการทำงานและการเรียนมากขึ้นกว่าเดิม การแบ่งเวลาและตารางเรียนต้องจัดเอง ซึ่งเธอต้องทำให้มันลงตัวกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งถ้าไม่ได้จริงๆ และเป็นช่วงงานก็ต้องคุยกับอาจารย์ไว้ล่วงหน้า 
       
       “มา ทำงานแบบนี้พ่อกับแม่ไม่ได้ห้ามนะค่ะ แต่ไอซ์รู้สึกว่ามันยากกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ มันอาจจะทำให้เราเรียนหนักมากขึ้นด้วย เพราะบางทีเราไม่ได้เข้าเรียนเราก็ต้องมาตามหนังสืออะไรเอง”

       
 
       “ส่วน ใหญ่พ่อกับแม่ ก็ห่วงบ้างค่ะ ถามบ้างว่างานจะเป็นยังไง เราต้องทำอะไรบ้าง แต่ไม่หวง จะห่วงมากกว่า ท่านจะเตือนแค่เรื่องเรียนว่าอย่าเสียนะ ทำงานก็ดูแลตัวเองให้ดี ไอซ์เป็นคนไม่ค่อยแข็งแรง ดื่มน้ำน้อย เวลาทำงานหนักเราก็ไม่สบาย ต้องดูแลตัวเองให้ดีค่ะ จะเวียนหัว ป่วย ถ่ายหนังกลางแดดก็มึนเลยค่ะ ก็จะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ พอเราทำงานหนักจะร่างกายเพลียทันที เวลาไอซ์อยู่กับเพื่อนเห็นเพื่อนดีใจก็จะส่งเสียง กรี๊ด ชอบใจ แต่เราจะนิ่ง ดีใจมากๆ ก็พยักหน้า เสียใจก็อืม เสียใจนะ ไม่ออกกำลังกายนะ เพื่อนไปตีแบดฯ เราก็ขี้เกียจไม่อยากทำ ก็เลยมาเจองานหนักพร้อมกัน คิวติดกัน นอนดึกตื่นเช้าทุกวัน ร่างกายก็เริ่มแย่แล้วค่ะ ฟุบบ้างก็ขอพี่เขานอนบ้าง แต่ก็อึดเต็มที่ เต็มกำลังของเรา มากินวิตามิน” 
       
       ใน ตอนเด็ก เธออาจจะเป็นเด็กกิจกรรม มีร้องเล่น เต้น รำ ไปตามประสา แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายนัก เธอบอกว่าช่วงเด็กๆ อาจจะเห็นว่าไอซ์กล้าแสดงออกอยู่บ้าง นั่นคือช่วงที่อยู่อนุบาล แต่พอโตขึ้น เริ่มหายไป อยากอยู่เฉยๆ คอยดูเพื่อนทำกิจกรรมอยู่ห่างๆ


   
    
       ไอซ์ บอกว่ายิ่งโตขึ้น ยิ่งไม่ค่อยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ เป็นเด็กที่โตมาแบบเงียบๆ ขี้อาย ติดพ่อติดแม่ตลอด ถึงจะมีพี่สาวคนนึงแต่อายุห่างกันมากถึงสิบปี จึงทำให้ไม่สนิทสนมกับพี่สาวมาก
       
       “หนู มีพี่สาวคนนึงค่ะ ไม่ค่อยสนิทนะ เหมือนว่าเราเป็นลูกหลงนะ ตอนนี้พี่สาวก็มีครอบครัวแล้วค่ะ ก็จะห่างหน่อย ด้วยความห่างระหว่างวัยเค้าก็จะคอยดูแล ช่วยเหลือไอซ์อยู่ตลอดเลยค่ะ เหมือนเป็นแม่คนที่สอง ค่ะ ห่างสิบปี จะเล่นอะไรก็ไม่ทันกันแล้วค่ะ ช่วงนี้งานยุ่ง แล้วพี่สาวก็งานยุ่งเพราะที่บ้านทำร้านอาหารค่ะ ช่วงน้ำท่วม ร้านที่อยู่แถววัชรพลก็ท่วมอ่วมค่ะ ช่วงนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงร้านค่ะ ก็ไม่ได้ค่อยคุยกันเท่าไหร่”
       
       จาก เด็กขี้อายติด พ่อแม่ และต้องก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิง ยิ่งทำให้ช่วงนี้ต้องเจอผู้คนมากขึ้น คนเริ่มรู้จัก ก็ต้องทำให้เธอหันกลับมาปรับตัวใหม่ เพราะบุคลิกของสาวหมวยคนนี้ เป็นสาวสวย พูดน้อย ขี้อาย จนเธอบอกว่า หลายครั้งก็มีคนเข้าใจผิดคิดว่าหน้าบึ้งอยู่รึเปล่า เหวี่ยงบ้างล่ะ ดูหยิ่ง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้นางเอกหน้าใหม่ที่กลัวคนรอบข้างเข้าใจผิดนั้นค่อบๆ เริ่มปรับตัวมากขึ้นกว่าเดิม
       
       “เรา เองก็ต้องระวังตัวมากขึ้น ตอนแรกไอซ์ไม่คิดอะไร อยู่กับเพื่อนเพื่อนก็จะรู้ว่าไอซ์เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ แต่คนอื่นมองเข้ามาอาจจะมองว่าเราหยิ่งก็ได้ค่ะ เราก็กลัวว่าคนอื่นจะมองอย่างนั้นค่ะ”

       
       ว่าที่ “นางเอกร้อยล้าน” กดดัน
       
       คำ ว่า “นางเอกจีทีเอช” กลายเป็นนามสกุลที่การันตีถึงความสามารถของนางเอกหน้าใหม่หลายครั้ง ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนางเอกร้อยล้าน อย่าง หนูนา หนึ่งธิดา หรือ คริส หอวัง ต่างก็สามารถก้าวเข้ามาเป็นนางเอกหน้าใหม่และทำให้ภาพยนตร์ของจีทีเอชคว้า รายได้ร้อยล้านมาแล้ว และล่าสุดกับนางเอกหน้าใหม่อย่างไอซ์ ปรีชญา ก็ยิ่งทำให้คนจับตามองและคาดหวังกับนางเอกใหม่คนนี้อย่างมาก ว่าจะกลายมาเป็นนางเอกร้อยล้านอีกคนได้หรือไม่
       
       "รู้สึก กดดันค่ะ แรกๆ ไอซ์ไม่ได้คิดอะไรนะค่ะ แต่พอหนังเริ่มเข้าฉายก็กดดันตัวเองมากขึ้น มีคนเริ่มจับตามองเรามากขึ้น เพราะว่าเราเป็นนางเอกใหม่ เขาก็คงอยากรู้ว่าเราเป็นยังไง ก็กลัวเหมือนกันค่ะว่าจะเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ไอซ์เองก็คิดว่าเราก็ทำเต็มที่ของเราแล้วล่ะค่ะ ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะคนเราก็ไม่เหมือนกันเนอะคิดว่าตรงนี้เราทำดีที่สุดแล้วล่ะ จริงๆ ถ้าถามว่าคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เรื่องแรกเราก็หวังค่ะ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้ร้อยล้านนะค่ะ เพราะไอซ์เองก็ทำเต็มที่แล้วค่ะ ก็หวังว่าคนที่ดูก็คงจะชอบค่ะ”

       

 
       ไอซ์เล่าถึงประสบการณ์ในการเข้าซีนแรกให้ฟังว่า “ซีน แรกที่ไอซ์เข้าฉากเป็นซีนที่ไอซ์ใช้แคสติ้งเลยค่ะ แต่ว่าก็ผ่านได้ด้วยดี แต่อันที่ยากๆ ก็น่าจะเป็นคอมเมดี้ทั้งหลาย ที่ต้องเข้าไปเล่นกับปรมาจารย์เล่นมุกทั้งหลาย หลุดขำบ่อยมากเลย จะโดนเทกฉากคอมเมดี้เยอะๆ มากกว่า มันทนขำไม่ได้ ตอนซ้อมก็คิดว่าเออ คงไม่หลุดขำมั้ง โห! แต่พอเข้าฉากกันจริงๆ เซียนกันมากเลยค่ะ หนูไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย แค่แต่งหน้าเสร็จก็เรียกเข้าฉากแล้ว ไม่ได้คุยกันนอกรอบก่อน เข้าไปเจอพี่โจ๊กเลย ฮาพี่โจ๊กมากค่ะ พอเข้ามาถึง หนักเลยค่ะ ขำจนชินเลยค่ะเลยบอกพี่เขาว่า พี่ทำอะไรทำเลย ไม่ขำแล้ว” 
       
       หลาย คนมองว่างานนี้ เต๋อ ฉันทวิชช์ เป็นป๋าดันนางเอกนางใหม่อย่างแน่นอน ซึ่งไอซ์บอกว่ามีคนเคยถามพี่เต๋อ แล้วพี่เต๋อเองก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นป๋าดัน และพูดติดตลกว่า “ผมนี่แหละป๋าดัน คนจะเหยียบผมขึ้นไปดังตลอดเลยครับ” ซึ่งในกองถ่ายแล้ว เต๋อเป็นอีกคนนึงที่คอยช่วยสอนน้องๆ ในเรื่องของการแสดงอีกด้วย
       
       “เข้า ฉากกับพี่เต๋อไม่เครียดเลยค่ะ เพราะพี่เขาก็ไม่เครียดอยู่แล้วก็เลยเล่นด้วยง่าย เป็นพวกตลกอัธยาศัยดี มีฉากตบหน้ากันพี่เขาก็บอกหนูให้ตบจริงๆ ไปเลย ใส่เต็มที่แล้วฉากนั้นก็กลายเป็นว่า สิบเทกก็ตบจริงๆกันทั้งสิบเทกเลย หน้าพี่เขาคงชาเลยค่ะ เล่นอะไรก็อยากให้ออกมาดีค่ะ ในฉากที่ไม่คิดว่าจะเจ็บตัวก็มีกันบ้างค่ะ”
       
       ช่วง นี้คนเริ่มรู้จักไอซ์มากขึ้น จากเด็กถ่ายงานโฆษณาเริ่มมีแฟนคลับ มีคนคอยติดตามผลงาน พอได้มาเล่นภาพยนตร์ก็ยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้นกว่าเดิม เริ่มมีแฟนเพจ มีเว็บแฟนคลับ ไอซ์บอกว่าตอนที่เล่นโฆษณาแทบจะไม่มีใครจำเธอได้เลย เพราะลุคของตัวเองเปลี่ยนง่ายมาก หลายคาแร็กเตอร์เปลี่ยนไปตามงานโฆษณา แต่ที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดก็คือ คาแรกเตอร์ในหนังเรื่องATM…เออรัก เออเร่อ ซึ่งจะเป็นผู้หญิง นิ่งๆ ขรึมๆ แต่ก็มีมุมฮาบ้าง
       
       ใน การทำงานวงการบันเทิงถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับนางเอกหน้าใหม่ ใสกิ๊ก อย่างเธอ ซึ่งในวงการบันเทิงอาจจะเป็นวงการหนึ่งที่ต้องระวังและต้องเจอกับข่าวคราว ที่ตามมาอีกมากมาย แต่สำหรับเธอไม่คิดมากอะไร เพราะเธอถือว่าความผิดพลาดในอดีตก็สามารถทำให้เราแก้ไขได้ในอนาคต กลายเป็นบทเรียนที่คอยสอนให้เราแก้ตัวได้
       
       “เตรียม ตัวกับการรับมือข่าวในวงการที่จะเกิดขึ้นไหมค่ะ ก็ยังเริ่มต้นเข้ามานะค่ะ หนูก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจออะไร ไม่ได้คิดอะไรเอาไว้ค่ะ มันเป็นเรื่องของอนาคต ก็ต้องเตรียมใจไว้บ้าง มีอยู่แล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะมีคนมองว่าศัลยกรรม ก็ไม่ได้คิดยังไงนะค่ะ หลายคนอาจจะมองอยู่เหมือนกันมั้งค่ะ แต่เค้าคงไม่กล้าเข้ามาพูดกับไอซ์ โดยส่วนตัวไอซ์คิดว่าถ้าเขาจะมองเราแบบนี้ ก็ต่างคนก็ต่างมุมมอง ต่างทัศนคติอยู่แล้วค่ะ บางคนอาจจะคิดไม่เหมือนกัน ไอซ์ไม่ได้มีอคติอะไรกับใครอยู่แล้วค่ะ”



       
       ถูกมองว่า “หยิ่ง”

ใน ภาพยนตร์ไอซ์ต้องเล่นบทคอมเมดี้ ตลก ฮา กล้าพูด ต้องการเอาชนะ แต่ถ้าได้สัมผัสตัวจริงของเธอ ทำให้รู้ทันทีว่า ตัวจริงของเธอช่างต่างจากบทในภาพยนตร์อย่างเห็นได้ชัด

“ไอซ์ จะเป็นคนเงียบ ถ้าไม่สนิทจะไม่ค่อยพูด ดูเป็นคนขี้อายค่ะ แต่พอสนิทจะพูดมากขึ้นกว่าเดิม ก็จะแบบสนิทก็คุยได้ กล้าแสดงออก แต่ก็เป็นคนโก๊ะเปิ้นๆ เหมือนในหนัง ซุ่มซ่าม ไม่ค่อยเก็ตมุก เหมือนคาแรกเตอร์ของจิ๊บในหนัง”

“เรื่อง โก๊ะๆ ก็เดินชนนู้นนี้ ก็ซุ่มซ่าม อย่างเรื่องถ่ายรูป ไอซ์ชอบเป็นคนทำหน้าเฉยๆ นิ่งๆ พี่เต๋อก็จะแซว แล้วพอไอซ์เก๊กท่าที่มันเชยเมื่อหลายสิบปีก่อน เขาก็จะแซวๆ ว่าเชยมาก เราก็ไม่รู้ไงค่ะ บางทีเค้าเล่นมุกมา แล้วทุกคนเก็ตหมดแล้วอ่ะ ไอซ์เองก็ยังนิ่งอยู่ จนพี่เค้าไม่อยากเล่นกับไอซ์แล้วค่ะ ยิ่งเล่นไปก็ไม่ขำ ไม่สนุก มุกแป๊กของไอซ์ไม่ค่อยมีแต่คนจะขำไอซ์ที่ทำอะไรโก๊ะมากกว่า” เธอเล่า

ข้อ เสียของไอซ์ คือเมื่อไหร่ที่นิ่งและเงียบ ทุกคนจะมองว่าไอซ์หยิ่ง บุคลิกเช่นนี้อาจจะไม่ดีสักเท่าไหร่เมื่อเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง จากส่วนตัวที่เธอบอกว่าเป็นคนเงียบก็ไม่ดี ต้องมาปรับกันใหม่

“เรา เป็นคนที่นิ่งเงียบเกินไปจนทำให้คนอื่นมองว่าเราหยิ่งค่ะ บุคลิกแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนตัวที่เราเป็นคนเงียบอยู่แล้ว มันก็คงไม่ดีกับคนที่มาคาดหวังกับเราว่าเราจะต้องเป็นคนแบบไหน หลังๆ ไอซ์จะเป็นคนฮา ยิ้ม บ้าบอ แต่ตัวจริงๆแล้วไม่ใช่ คนก็อาจจะคาดหวังว่าเราเฮฮา ตลก ยิ้มแย้มนะ แต่ตัวจริงๆไม่ใช่ ข้อนี้แหละที่มันอาจจะไม่ดีกับตัวเอง”

“คิด ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว วันใหม่ก็เริ่มใหม่ ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ เคยรู้สึกท้อมั้ย ก็มีบ้างค่ะ ทำทุกวัน ก็เหนื่อย ขนาดเรียนเรายังไม่หนักแบบนี้เลย เรียนก็มีหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่นี่ไม่เลยค่ะทำทุกวัน วันเสาร์อาทิตย์ยังต้องทำงาน เลือกไม่ได้ ท้อ อยากหยุด เพื่อนโทร.ไปเพื่อนนอนอยู่เราทำงาน บางทีแต่งหน้าไปก็หลับตอนนั้นเลยค่ะ งีบบนรถบ้าง พอคุยกับพ่อแม่ เค้าก็บอกว่า ตั้งใจทำงาน อดทนหน่อย ก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ ต้องทำตัวดูแลตัวเองมากขึ้น ก็เริ่มออกกำลังกายบ้าง เต้นอยู่บ้าน จะได้มีพลังงานเยอะขึ้น”

นอก จากงานโฆษณา งานภาพยนตร์แล้ว เธอยังเคยผ่านการเดินแบบ ในงาน Bangkok Fashions Week ให้แก่ห้องเสื้อชื่อดังอีกด้วย แต่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันมากที่สุดคือ อยากเป็นแอร์โฮสเตส

“งาน เดินแบบก็มีมาเรื่อยๆ แต่หนูเตี้ยค่ะ ก็ได้มีโอกาสไปเดินบ้างค่ะ ที่ได้โอกาสนี้ก็เพราะว่าไอซ์รู้จักกับพี่เจ้าของงานไอซ์ก็เริ่มทำงานในวง การก็ลองไปเดินดู ก็เดินได้ค่ะ อยากลองเดินบ้าง สนุกดี ก็จะดูเป็นผู้หญิงสวยๆ ดีค่ะ ไม่ต้องแอ็กติ้งมากเท่าไหร่ งานที่ฝันเอาไว้ จริงๆ เปลี่ยนง่ายมาก อยากเป็นหมอ แต่ที่จำได้แม่นสุดคือเราอยากเป็นแอร์โฮสเตสค่ะ เพราะว่าเราอยากดูสวย อยากใช้ภาษา ได้ไปเที่ยว เป็นสาวสวยสง่า ดูดีเนอะ พอเรียนก็จริงๆ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรที่พอเรียนจบจะทำอะไรอย่างชัดเจนนะค่ะ เพราะว่าตอนนี้วุ่นวายมาก ช่วงนี้ก็ไม่ได้แพลนอะไรเท่าไหร่ ก็ถ้าได้มีโอกาสทำงานในวงการก็ทำไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ แต่ถ้าคิดว่ามันยังไม่ใช่ตัวของไอซ์เองก็คงอาจจะออกไปทำอย่างอื่น ”
      
 


 
      
       ประสบการณ์รักสุดฮา

ช่วง นี้นางเอกใหม่ของทุกคนกำลังยุ่งๆ กับงานจนไม่มีเวลาให้กับความรักสักเท่าไหร่ และเธอเองก็ไม่มีความรัก ยิ่งทำงานไปด้วยคงดูแลใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง

“ช่วง นี้ทำงานอย่างเดียว มุมมองความรักของหนูคือทุกคนอยู่ได้เพราะความรัก ไม่ใช่เฉพาะแค่สถานะของแฟนเท่านั้นค่ะ พ่อแม่ พี่น้อง เรารักเค้า เค้ารักเรา คนที่ไม่มีความรักอยู่ไม่ได้หรอกค่ะ ความรักในแบบATM เออรัก เออเร่อ คงเป็นอะไรที่เออเร่อมากค่ะ ถามว่าสองคนนี้รักกันมั้ยก็รักกัน แต่ว่ามันก็มีความอยากเอาชนะในตัวเอง ไม่ยอมกัน แข่งขันกันตลอด ไม่ใช่รักแบบหวานๆ จะฮา กัดกัน มีเคืองกันตลอดเวลา”

ไอ ซ์บอกว่า เธอมีความลับเรื่องหนึ่งที่เธอไม่เคยบอกใคร และก็ไม่มีใครรู้เลยเกี่ยวกับรักครั้งแรกของเธอ สมัยเรียนชั้นอนุบาลเธอเคยแอบปิ๊งเพื่อนชายคนนึง เขาเป็นเด็กน่ารักมาก ออกแนวแอบรักเพื่อนตัวเอง แล้วก้ได้แต่คิดว่าเขาน่ารัก ทุกครั้งที่เขาเดินผ่านก็จะมองแล้วก็รู้สึกเขินอยู่คนเดียว แต่หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปห้องอื่นๆ ไปเรื่อย จนไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย เพราะเป็นคนขี้อาย มีอะไรก็เก็บเอาไว้คนเดียว รู้สึกอยู่คนเดียว ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนแล้ว โตมาก้ไม่เจอกันอีกเลย

เมื่อ โตขึ้นก็มาเจอกับเรื่องราวการเข้ามาจีบของหนุ่มๆ ในสมัยมัธยมฯ เมื่อครั้งที่เธอเรียนอยู่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ประสบการณ์ที่เคยถูกจีบสุดฮา คล้ายกับบทของโย ซึ่งรับบทโดย โจ๊ก-วงโซคูล ที่เข้ามาจีบด้วยการร้องเพลงใส่แล้วก็เอาดอกไม้มาให้ถึงห้องเรียนในขณะที่ คุณครูกำลังสอนอยู่

“ถ้า เจอผู้ชายแบบ โย (พี่โจ๊ก) ในเรื่องก็คงอึ้ง นิ่งไปพักนึงเลยค่ะ ก็แบบว่ามีแบบนี้ด้วยหรอ ก็ช่างกล้าเนอะ เข้ามาจีบแบบร้องเพลงจีบ ไอซ์เคยเจอนะตอนมัธยมฯ ที่สตรีวิทยา 2 ก็มีรุ่นพี่ร้องเพลงเดินถือดอกไม้เข้ามาให้ในห้องเรียน ตอนนั้นคุณครูก็สอนอยู่นะ ครูก็ดุ แล้วพี่เค้าก็เดินเอาดอกไม้มาให้ เพื่อนๆ ก็โห ใส่ โดนอาจารย์บ่นเลยค่ะ ฮามากตอนนั้นแล้วอายด้วยหนูจะชอบคนที่คุยกับเรารู้เรื่อง โตกว่าเรา หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ คุยด้วยแล้วไม่เบื่อ เอนจอยกับเค้า จะขำ หรือเป็นตัวของตัวเองค่ะ ”



       
    
       
เดินแบบ



คุณพ่อกับคุณแม่ น้องไอซ์ มาแสดงความยินดีให้ลูกสาวในงานเปิดตัวภาพยนต์วันแรก

การแสดงในงานเปิดตัวภาพยนต์

“อยาก ให้ทุกคนไปดูหนังเรื่องATM…เออรัก เออเร่อ จะได้มุมมองเกี่ยวกับความรักค่ะ ว่าเราไม่ได้มีความรักแบบหวานชื่นอย่างเดียวนะ มันต้องมีอะไรหลายๆ อย่างผ่านเข้ามา ไม่ได้มีแค่โรแมนติก หวานแหวว คนที่รักกันไม่ต้องรักกันอย่างเดียวมันมีอะไรหลายอย่าง และหลังจากนี้อาจจะมีแพลนได้เล่นหมวดโอภาส ก็ได้เล่นคอมเมดี้ ก็ต้องเรียนพัฒนาตัวเอง ยังไม่ค่อยโปรเท่าคนอื่นเท่าไหร่ค่ะ ต้องพัฒนาความฮาตัวเองขึ้นมาเลเวลนึง เดี๋ยวจะสู้พี่เต๋อไม่ได้ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะค่ะ” ไอซ์ ฝากทิ้งท้าย


ขอได้รับความขอบคุณจาก :
- manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000008410
- ข่าวโดย Manager Lite / ASTV ผู่้จัดการสุดสัปดาห์

ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น